- Published Date: 14/06/2023
- by: UNDP
กำแพงที่มองไม่เห็น: รู้จักกลุ่มชาติพันธุ์ และความท้าทายของชีวิต ผ่านวงสนทนาเยาวชนชาติพันธุ์
หากจะพูดถึงกลุ่มอัตลักษณ์ที่หลากหลายที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีโอกาสพบเจอหรือพูดคุยเท่าไหร่นัก
กลุ่มชาติพันธุ์อาจจะเป็นกลุ่มดังกล่าวที่นึกถึง แต่ทำไมกัน ทั้งๆที่กลุ่มชาติพันธุ์เป็นกลุ่มที่มีอัตลักษณ์ดูกลมกลืนกับคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย แต่กลับยังมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตที่มากยิ่งขึ้นในปัจจุบันสวนทางกับความทันสมัยของยุคสมัยนี้อย่างมาก
วงสนทนานี้ จะชวนมาเรียนรู้วิถีชีวิตและอุปสรรคในการใช้ชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์
เยาวชนของชาติพันธุ์ในไทยซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่ต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำและอุปสรรคปัญหาต่างๆ ในการเข้าถึงสิทธิต่างๆที่พึงควรจะได้จากการเป็นมนุษย์ ตั้งแต่การเลือกปฏิบัติไปจนถึงการขาดโอกาสทางการศึกษา การจ้างงาน สิทธิการรักษาพยาบาล
อนึ่ง การเลือกปฏิบัติก็เป็นปัญหาใหญ่ของเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย แม้ว่าประเทศนี้จะมีความหลากหลายทางเชื้อชาติอยู่ก็ตาม แต่ก็ยังมีการเลือกปฏิบัติต่อคนที่แตกต่างจากพวกเขา โดยเยาวชนชนกลุ่มชาติพันธุ์จะต้องเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติ การสื่อสาร โดยเฉพาะในสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษา
การถูกกลืนหายของวัฒนธรรม
โก้ (นามสมมติ) เยาวชนอาข่าท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ของเขาในวงสนทนาว่า ภาษาก็อาจเป็นอุปสรรคต่อเยาวชนบางกลุ่มชาติพันธุ์ เพราะภาษาไทยเป็นภาษาหลักของประเทศ บางกลุ่มชาติพันธุ์อาจไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแรก ซึ่งอาจทำให้พวกเขาสื่อสารและเข้าถึงการศึกษาและโอกาสอื่นๆ ได้ยาก เมื่อตอนเธอเด็ก เธอพูดไทยไม่ได้ และได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก นั่นคือจุดเริ่มต้นของการถูกเลือกปฏิบัติของเธอ ไม่ว่าจะจากเพื่อนหรือครูในโรงเรียน หลังจากนั้นเลยพยายามใช้ภาษาไทยในการสื่อสารตลอด จนปัจจุบันไม่สามารถสื่อสารภาษาพื้นเมืองได้ดีอีกแล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ในการพยายามจะเปลี่ยนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมตนเองเพื่อให้ตรงตามค่านิยมของสังคมไทย ซึ่งส่งผลในการถูกกลืนหายไปของภาษาและวัฒนธรรมพื้นเมืองของชุมชนนั้นๆ
ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการจ้างงานก็เป็นปัญหาหลักของกลุ่มชาติพันธุ์ สิ่งนี้อาจจะเชื่อมโยงได้ถึงการเข้าถึงสัญชาติไทยของคนชาติพันธุ์เยาวชนชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มอาจไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาหรือโอกาสในการทำงานที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับเยาวชนไทย ซึ่งอาจจำกัดโอกาสในการประกอบอาชีพและทำให้ยากต่อการสร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จในอนาคต กำแพงความฝันของพวกเขาจึงถูกทำให้แคบลง
เพราะความห่างไกล จึงยากที่จะใช้สิทธิของตนเองในการสนับสนุนนโยบายหรือผู้แทนประเทศที่ต้องการ
เชื่อมโยงจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา นำไปสู้ถึงอุปสรรคอื่นในการใช้สิทธิขั้นพื้นฐาน “แสง” (นามสมมติ ไม่ระบุชาติพันธุ์) เล่าว่า สิทธิการเลือกตั้งเข้าไม่ทั่วถึง หมู่บ้านที่เขาอยู่ไม่ได้ถึงขั้นอยู่บนดอย แต่ก็ยังมีความห่างไกล ยากที่จะใช้สิทธิของตนเองในการสนับสนุนนโยบายหรือผู้แทนประเทศต่างๆ นอกเหนือจากนั้น ความที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ คนนอกพื้นที่ยังใช้โอกาสในการที่คนเหล่านี้เป็นชนชาติพันธ์ุชักจูงผลประโยชน์ ด้วยความที่รู้ไม่ทั่วถึงข้อมูล ทำให้ถูกชักจูงโดยง่าย รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องการได้สัญชาติไทย บางกลุ่มอยู่เมืองไทยมานานแต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย ทั้งๆที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย แต่ชุมชนตั้งห่างไกลชุมชนเมือง ห่างไกลความเจริญ ยังต้องต่อสู้ขอสิทธิชนชาติไทยและสัญชาติไทยอยู่เรื่อยมา ทำให้เข้าไม่ถึงสวัสดิการต่างๆ ประกอบกับมีปัญหาเรื่องข้อมูลที่อยู่ไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะอยู่มานานอยู่มานานแต่อยู่ห่างไกลและอยู่ติดชายแดน ทำให้ปรากฎว่ามีอัตลักษณ์ที่มีความก้ำกึ่งระหว่างประเทศ ถูกสงสัยว่าเป็นพลเมืองประเทศอื่น เช่น เมียนมาร์ หรือลาว ส่งผลให้ไม่ได้การรับรองสัญชาติ ปัจจุบันเยาวชนชาติพันธุ์จำนวนมากยังคงพบเจอกับอุปสรรคนี้อยู่
การรักษาแบบทางเลือกและการเข้าถึงบริการสาธารณสุข
เมย์(นามสมมติ) เยาวชนชาวอาข่า เล่าว่า ในวัยเด็กที่ความเชื่อเรื่องผีแบบดั้งเดิมมีบทบาท แม้แต่ในชุมชนที่นับถือคริสต์เป็นหลักเช่นครอบครัวของเธอก็ได้รับอิทธิพลจากประเพณีดั้งเดิม ความเชื่อบางอย่างที่ได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ที่เธอพบเจอ เช่น จากประสบการณ์ในวัยเด็กของเธอที่มีบาดแผลที่รักษาด้วยวิธีสมัยใหม่ไม่ได้ แต่การใช้ศาสตร์แห่งความเชื่อและการรักษาโดยใช้ดินและไส้เดือนร่วมกับพิธีกรรมของชนเผ่ากลับได้ผล ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการบริการสาธารณสุขและบริการสุขภาพตามรัฐสวัสดิการ แต่คนชาติพันธุ์ส่วนหนึ่งก็เลือกที่จะได้รับการรักษาแบบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการรับบริการสาธารณสุขและบริการสุขภาพตามรัฐสวัสดิการ แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม เพราะพวกเขายังเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างครอบคลุม และยังเฝ้ารอการผลักดันทางนโยบายต่อไป
การเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศไทยจะต้องพบเจอปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ หรือสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา และการรักษาพยาบาลก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะไม่สามารถถูกแก้ได้หากขาด การสร้างเครือข่ายสนับสนุนที่สามารถช่วยชี้นำและส่งเสริมระบบในการดูแล และการกระจายสิทธิการเข้าถึงสิทธิขึ้นพื้นฐานต่างๆ สิ่งสำคัญคือต้องสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิต่างๆและไม่มีการเลือกปฏิบัติ และพยายามผลักดันไปสู่เป้าหมายต่อไป นอกจากนี้ยังมีองค์กรและกลุ่มต่างๆ มากมายที่ทำงานสนับสนุนเยาวชนชาติพันธุ์ในประเทศไทย ที่พร้อมจะสนับสนุนตลอดจนการศึกษาเพื่อช่วยให้เยาวชนชาติพันธุ์ได้มีสิทธิเข้าถึงการศึกษาเพื่อจะสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเท่าเทียม ด้วยการทำงานร่วมกัน เราสามารถสร้างสังคมที่ครอบคลุมและเกื้อกูลกันมากขึ้นสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์