- Published Date: 19/11/2021
- by: UNDP
ปัญหาสุขภาพจิตกับเยาวรุ่นข้ามเพศ
“ทุกวันนี้ก็เหมือนอยู่แบบไม่รู้จักกันครับ ไม่คุยกัน ไม่มองหน้ากัน ผมก็อยู่แค่พอให้ได้อยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น” คือคำพูดของ ‘นิก’ (นามสมมติ) ชายข้ามเพศวัย 21 ปีที่พูดถึงความสัมพันธ์ของตนกับผู้เป็นแม่ นิกเล่าว่าแม่ของเขาไม่ยินดีกับการข้ามเพศของเขา ถึงขนาดที่เลือกจะตัดขาด “เขาไม่ได้อยากได้ลูกชาย เขาอยากได้ลูกสาวของเขาคืน แล้วการที่เรา ‘เปลี่ยนไป’ ก็เหมือนกับว่าเราไปพรากลูกสาวมาจากเขา”
.
ความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่นในครอบครัวที่มีลูกเป็นคนข้ามเพศไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคม และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของเยาวชนคนข้ามเพศ การตีตรา การโดนเลือกปฏิบัติ การไม่สามารถเข้าถึงบริการทางสุขภาพสำหรับการข้ามเพศ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่กระทบกับสุขภาพจิตของเยาวชนคนข้ามเพศทั้งนั้น ยิ่งประกอบกับการขาดแคลนคลินิกสุขภาพเพศที่เหมาะสมและเพียงพอ ก็ยิ่งตอกย้ำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ยิ่งไปอีก
.
เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งการรับรู้ตัวตนคนข้ามเพศ (Transgender Awareness Week) เพจ GendersMatter ร่วมกันกับ UNDP Thailand จึงขอร่วมมือกัน ขจัดความเข้าใจผิดที่มีต่อคนข้ามเพศ และวันนี้ หัวข้อที่จะพูดถึงก็คือ “สุขภาพจิต กับ เยาวรุ่นคนข้ามเพศ”
.
#ปัญหาสุขภาพจิตที่เยาวรุ่นข้ามเพศต้องเจอ – หลายคนในประเทศไทยอาจจะติดกับภาพจำที่ว่าคนข้ามเพศเป็นคนตลก การมีปัญหาทางสุขภาพจิตน่าจะเป็นเรื่องห่างไกล แต่หากมองให้ถี่ถ้วน จะเห็นว่าความตลกกับปัญหาสุขภาพจิตนั้นเป็นคนละส่วนกัน คนข้ามเพศในไทยยังต้องติดอยู่กับการเหมารวม และเมื่อความคิดนี้ถูกส่งต่อมายังพ่อแม่ที่มีลูกเป็นทรานส์ ก็ยิ่งกดทับให้หลายครอบครัวไม่รู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
.
และเมื่อไม่สามารถรับมือได้ ก็ตามมากับปัญหาทะเลาะเบาะแว้งในบ้าน บางครอบครัวเลือกจะใช้วิธีหยุดการสนทนาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่เมื่อยิ่งไม่พูด ความห่างเหินก็ยิ่งทวีขึ้น เมื่อเยาวชนเห็นว่าครอบครัวไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป ปัญหาทางสุขภาพจิตก็เริ่มตามมา และจากงานวิจัยก็จะพบว่า คนข้ามเพศมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพจิตมากกว่าคนตรงเพศถึง 4 เท่า
.
#เมื่อคลินิกสุขภาพเพศก็ไม่เป็นใจ – หนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจกับการสัมภาษณ์คนข้ามเพศที่เคยมีประสบการณ์เข้าคลินิกสุขภาพเพศในประเทศไทยก็คือ มีคลินิกเป็นจำนวนมากที่ยังขาดความเข้าใจต่อคนข้ามเพศ จนเกิดเป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขานชื่อเดิมที่ไม่ได้ใช้แล้ว (deadnaming) หรือ การนำคนข้ามเพศไปรอในห้องรวมที่ไม่ตรงตามเพศปัจจุบัน
.
#แล้วจะทำอย่างไร – สำหรับคนข้ามเพศ หากพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่บั่นทอนสุขภาพจิต ให้พยายามเอาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้น ๆ และหากไม่สามารถออกมาได้ทันที ให้หาคนที่ไว้ใจได้ เพื่อเล่าและระบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับช่วยกันหาทางออกไปพร้อม ๆ กัน แต่ถ้าหากเริ่มสังเกตตัวเองว่ามีอาการที่สื่อถึงสุขภาพจิตที่แย่แล้ว แนะนำให้เข้าพบศูนย์สุขภาพจิตที่ใกล้และที่สามารถเข้าถึงได้ได้ง่ายที่สุด
.
ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ระบบการเอื้ออำนวยการให้บริการทางสุขภาพจิตกับคนข้ามเพศในประเทศไทยจะยังคงขาดแคลน แต่อย่างน้อย ก็ทำให้เห็นว่า ระบบที่สนับสนุนคนข้ามเพศในประเทศไทยยังบกพร่องอะไรและสามารถเติมเต็มตรงไหนได้อีกด้วย ในขณะที่พัฒนาระบบ ก็อย่าลืมที่จะดูแลใจกัน ร่วมสร้างสังคมและพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับคนข้ามเพศ รวมถึงอัตลักษณ์อื่นให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
.
เพราะพื้นที่ปลอดภัย
จำเป็นสำหรับทุกคน